วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

เคล็ดลับการทำ "วุ้นกะทิ" ขนมไทยง่าย ๆ 

           "วุ้นกะทิ" ขนมไทยง่าย ๆ ทานได้ทุกเวลา โดยมีสูตรในการทำง่าย ๆ ดังนี้



                 ส่วนผสม

         - น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง * ( สูตรนี้ทำจำน้อยถ้าต้องการ วุ้นจำมาก คูณสูตร หรือปรับเปลี่ยนสูตรตามชอบ)
         - กะทิ  1  ถ้วยตวง ( กะทิกล่อง )
         - ผงวุ้น 1  1/2 ช้อนโต๊ะ ( เกรด AA จะแข็งหน่อย)
         - น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วยตวง  (หวานตามใจชอบ ชิมดูก่อนนะ)
         - เกลือป่น 1  ช้อนชา (ชิมตามชอบ)
         - สีผสมอาหาร แดง,ชมพู,เหลือง
       
                 วิธีทำ

1. ตวงผงวุ้นใส่น้ำสะอาด ตั้งแช่ไว้ 10-20นาที ให้วุ้นดูดน้ำ

2. นำผงวุ้นที่แช่ครบเวลาไปต้ม และหมั่นคน เพื่อให้วุ้นละลาย

3. เมื่อวุ้นละลายหมด ใส่กะทิลงไป ต้มต่อสักพัก จนพอเดือด

4. ใส่น้ำตาลทราย+เกลือป่น คนให้น้ำตาลละลาย ปิดไฟ

5. ตักน้ำวุ้นแบ่งใส่ถ้วย หยดสีใส่คนให้เข้ากัน เตรียมหยอดใส่พิมพ์ที่ต้องการ

6. พักวุ้นให้เย็นหรือจะแช่ตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซ็ตตัวเร็วขึ้น จากนั้นแกะออกเราก็จะได้วุ้นกะทิพร้อมเสิร์ฟ

*****************************************

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"น้ำอัญชัน" สรรพคุณบำรุงสายตา

 วันว่าง ๆ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี หันไปเห็นข้างบ้านมีดอกอัญชันออกเต็มเลย จึงคิดเมนูทำน้ำดอกอัญชัน ดื่มดีกว่า สรรพคุณช่วยบำรุงสายตาและยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกายและช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายทั้งยังช่วยดับกระหายคลายร้อนได้อีกด้วย



                 ส่วนผสม
         ดอกอัญชัน     2  ขีด
         น้ำเปล่า          1  ลิตร
         น้ำตาลทราย   1   ถ้วย
         มะนาว             1   ลูก

                 วิธีทำ


1. นำดอกอัญชันใส่หม้อ แล้วล้างให้สะอาดเติมน้ำลงไปต้มจนเดือด เติมน้ำตาลต้มต่อจนดอกอัญชันเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอ่อนจนขาว



2. นำน้ำดอกอัญชันมากรองด้วยผ้าขาวบาง




3. ตักน้ำดอกอัญชันมาวางให้อุ่น ๆ แล้วค่อยเติมน้ำมะนาว พร้อมเสิร์ฟ




น้ำดอกอัญชัน เมื่อเติมมะนาวจะเปลี่ยนสีจากสีน้ำเงินเป็นสีม่วง




*****************************************


วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

"ถั่วเขียวต้มน้ำตาล" เมนูเดิม ๆ เพิ่มเติมคือความอร่อย

           ถั่วเขียวต้มน้ำตาล  เมนูเดิม ๆ เพิ่มเติมคือความอร่อย เป็นเมนูไม่ยุ่งยาก ทำทานได้ภายในครอบครัว

                 ส่วนผสม
         ถั่วเขียว          1         ถ้วย
         น้ำตาล           1         ถ้วย
         น้ำเปล่า          1         ลิตร
         เกลือ              1         ช้อนชา

                 วิธีทำ

1.นำถั่วเขียวมาซาวล้างให้สะอาด แช่ไว้ 1 คืน 


2. นำถั่วเขียวที่แช่แล้วมาล้างน้ำให้สะอาด


3. นำน้ำเปล่าใส่หม้อ เปิดไฟปานกลาง เทถั่วเขียวลงหม้อต้ม 10 นาที เทน้ำทิ้ง แล้วเติมน้ำต้มต่ออีก 15 นาที


4. ถั่วเขียวสุกเติมน้ำตาลทรายและเกลือ จนน้ำตาลละลายปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟ


*****************************************




วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

"เค้กกล้วยหอมนึ่ง" เมนูกล้วย ๆ ที่น่าลอง

      เค้กกล้วยหอมนึ่ง เมนูกล้วย ๆ สไตล์คนชอบทานกล้วย เนื่องจากที่บ้านสวนมีกล้วยออกผลเยอะ เจ้าของบล็อกจึงคิดเมนูสำหรับกล้วยขึ้นมา หลาย ๆ เมนูเคยทำมาแล้ว ครั้งนี้จึงมาหยุดที่เมนู "เค้กกล้วยหอมนึ่ง" หน้าแตก 


          ส่วนผสม

  แป้งเค้ก 250 กรัม
  ผงฟู   2 ช.ช
  เบกกิ้งโซดา  2 ช.ช
  กล้วยหอมสุกงอม 3 ลูก *ถ้าชอบกล้วยเยอะ ๆ ใส่เพิ่มได้
  น้ำตาลทราย  200 กรัม ไม่หวานมาก * ชอบหวานเติมได้
  เกลือ 1/2 ช.ช
  ไข่แดง 4 ฟอง
  น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ (ใช้ผสมกับกล้วยหอม)
  น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ (ใช้ผสมกับนมสดจืด)
  นมสดจืด  110 กรัม
  น้ำมันถั่วเหลือง 110 กรัม

          วิธีทำ

  1. นำกล้วยหอมที่สุกงอมมาปอกเปลือกบดให้ละเอียดเติมน้ำมะนาวคนให้เข้ากันแล้วปิดแก๊สพักไว้สัก 30 นาที 

2. แป้งเค้ก+ผงฟู+เบกกิ้งโซดา+เกลือร่อน 2 ครั้งแล้วพักไว้

3. นำกล้วยหอมจากข้อ 1. มาตีด้วย speed เร็วสุด 3-4 นาที ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทรายตีจนน้ำตาลละลาย กล้วยจะออกสีนวลเนียน ใส่ไข่ลงไปตีให้ครบ 4 ฟอง ตีต่ออีก 10 นาทีจนส่วนผสมขึ้นฟูขาว
4. ใส่น้ำมะนาวลงผสมในนมสดจืดเทลงในกล้วยแล้วตีต่อ
5. ใช้พายคนแป้งเบาๆ มือให้เข้ากันเทน้ำมันสลับกันจนหมด นำพลาสติกมาปิดไว้ให้กล้วยเปลี่ยน
สีคล้ำ สัก 15 นาที


6. ใส่น้ำในซึ้ง 3/4 ตั้งไฟให้เดือด 
7. ตักแป้งใส่พิมพ์ขนม นำไปใส่ซึ้งนึ่ง นาน 15-20 นาที




ข้อควรระวัง
- ระวังน้ำที่ฝาซึ้งจะเข้าขนม ต้องหมั่นเช็ดฝาซึ้ง - คอยเช็คขนมโดยการใช้ไม้จิ้ม ถ้าไม่มีเศษขนมติด แสดงว่าขนมสุกแล้ว ตักออกจากซึ้งพร้อมเสิร์ฟ


******************************************



วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

"น้ำเต้าหู้" เครื่องดื่มดี ๆ มีประโยชน์

        น้ำเต้าหู้ เป็นเครื่องดื่มที่มีสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นิยมรับประทานได้ทั้งร้อนและเย็น การทำน้ำเต้าหู้สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก เพียงมีอุปกรณ์เหล่านี้คุณก็สามารถทำน้ำเต้าหู้ไว้รับประทานที่บ้านได้ค่ะ

            ส่วนผสม

1. เมล็ดถั่วเหลือง 1 ถ้วย 2. น้ำตาล 1/2 ถ้วย
3. น้ำเปล่า 1 ลิตร
4. หม้อสำหรับต้ม 5. ผ้าขาวบาง




วิธีทำ
1. นำถั่วเหลืองใส่ชามล้างให้สะอาด จากนั้นใส่น้ำให้ท่วมถั่วเหลือง แช่ทิ้งไว้ 1 คืน 2. เอาถั่วเหลืองที่แช่ไปล้างน้ำ แล้วนำถั่วเหลืองมาใส่เครื่องปั่นน้ำเต้าหู้แล้วเติมน้ำปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง 3. นำน้ำถั่วเหลืองใส่หม้อต้มไฟปานกลางคนเบา ๆ จนเดือดใส่น้ำตาลชิมตามชอบถ้าไม่หวานเติมตามชอบ คนจนน้ำตาลละลาย รอเดือดอีกรอบเสร็จตักเสิร์ฟ


เพียงเท่านี้คุณก็จะได้น้ำเต้าหู้เสิร์ฟร้อน ๆ หรือจะทานแบบเย็น ๆ ก็นำไปแช่ในตู้เย็นด้ง่าย ๆ ที่นอกจากจะมีประโยชน์แล้วยังได้รับสารอาหารจากเต้าหู้อีกด้วย ส่วนกากถั่วเหลืองให้เก็บไว้เอามาแปรสภาพเป็นขนมต่อไปค่ะ



*******************************************

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558


งามพระแท่นศิลาอาสน์ ถิ่นลางสาดรสดี

เมืองพระศรีพนมมาศ แหล่งไม้กวาดตองกง

ดงหอมแดงลือชื่อ งามระบือน้ำตกแม่พูล



    จากคำขวัญข้างต้นเป็นคำขวัญของอำเภอลับแล จ.อุตรดิตถ์ค่ะ  เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาทางเจ้าของบล็อกได้มีโอกาสไปเที่ยว จ.อุตรดิตถ์ จึงนำเสนอข้อมูลจังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้ให้ได้ทราบกันค่ะ โดย จ.อุตรดิตถ์จะมีทั้งหมด 9 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ลับแล อ.ตรอน อ.ท่าปลา อ.น้ำปาด อ.ทองแสนขัน อ.บ้านโคก อ.ฟากท่า และ อ.พิชัย ทั้งนี้จะพูดถึงอ.ลับแลเนื่องจากได้ไปเที่ยวที่แห่งนี้มาค่ะ

     จ.อุตรดิตถ์เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย หรือที่เรียกว่าภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบนนั่นเอง และอ.ลับแล ก็เป็นอ.เล็ก ๆ ที่ชาวบ้านนิยมปลูกผลไม้ขึ้นชื่อ อาทิ ทุเรียนหลงลับแล หลินลับแล หมอนทอง รวมไปถึงลางสาดและลองกองที่กำลังออกผลอยู่ในขณะนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตแบบพอเพียง เรียบง่าย ส่วนใหญ่จะนิยมพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์เนื่องจากสวนผลไม้ของชาวบ้านแถบนี้จะปลูกบนภูเขา รถจักรยานยนต์จึงเป็นพาหนะใช้งานได้ดีในพื้นที่แถบนี้


   สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวภายในอ.ลับแลมีหลากหลายที่เช่นกัน อาทิ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระยืน วัดพระนอน วัดบรมธาตุทุ่งยั้ง รวมไปถึงน้ำตกแม่พูล ที่เป็นน้ำตกขึ้นชื่อของอำเภอนี้ 

  
       อาหารขึ้นชื่อของอ.ลับแลก็มี ข้าวแคบ ข้าวพันผัก ที่ให้ไปลิ้มลองกัน 


            


วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

"ถั่วเค็ม"เมนูง่าย ๆ สไตล์คนทานเจ

          
            เข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจกันแล้ว ซึ่งเทศกาลนี้ทำให้เราละเว้นชีวิตสัตว์ หลังจากที่เราฆ่าเขาเพื่อนำมาประกอบอาหารตลอดเกือบทั้งปี เทศกาลกินเจจะเริ่มในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน ปีนี้จะตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม 2558 -21ตุลาคม 2558  (ปฏิทินไทย) บางคนอาจจะกินก่อน 1 วัน ซึ่งเรียกว่า "ล้างท้อง" ก่อนกินเจนั่นเอง สำหรับคนที่กินเจอาหารหาได้ไม่ยากและสะดวกมากขึ้นเนื่องจากคนกินเจกันเยอะขึ้น โดยสังเกตสัญลักษณ์ธงเจสีเหลืองปักอักษรสีแดง  หรือบางท่านอาจจะประกอบอาหารเจทานเองที่บ้าน



       เนื่องจากเทศกาลกินเจทำให้เราละเว้นเนื้อสัตว์ จึงทำให้เราสูญเสียโปรตีนจากสัตว์ที่จะเสริมสร้างพลังงานต่อร่างกาย แต่เราสามารถที่จะทานพืชตระกูลถั่วเพื่อเพิ่มโปรตีนได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลืองเจ เป็นต้น 

          เมนูที่ทำจากถั่ววันนี้มีอีก 1 เมนูมาแนะนำสำหรับผู้ที่ทานเจ เพื่อให้เข้ากับเทศกาลและเป็นเมนูแสนง่ายที่ทำมาจากถั่วเพื่อช่วยเสริมโปรตีนแทนเนื้อสัตว์ไว้เป็นอาหารทานเล่นก็ได้หรือจะนำมาทานกับข้าวก็อร่อยนั่นคือเมนู "ถั่วเค็ม" นั่นเอง

ส่วนผสม

ถั่วลิสง 1/2 กก.
เกลือ 2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำถั่วลิสงไปคั่วไฟปานกลางให้เหลือง แล้วรอให้เย็น แล้วเอาเปลือกออก ให้เหลือแต่เม็ดขาว 
2. นำถั่วไปตำไม่ต้องละเอียดมาก ค่อย ๆ ใส่เกลือตำคลุกเคล้าให้เข้ากัน ออกเค็มนิด ๆ กินกับข้าวต้มหรือข้าวสวยก็ได้ (หากไม่ตำก็สามารถทานแบบเม็ดก็อร่อยเหมือนกัน)



         สำหรับเทศกาลกินเจปีนี้ เราก็จะได้เมนู "ถั่วเค็ม" เป็นเมนูที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก จะเอาไว้ทานเล่นหรือทานกับข้าวก็ได้ ซึ่งเป็น 1 ในเมนูที่ช่วยเพิ่มโปรตีนทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์อีกด้วย